ศาสตราจารย์ ร้อยตำรวจเอก ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ (เกิด 1 สิงหาคม พ.ศ. 2493) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรครักษ์สันติ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาวิทยา และเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) อดีตอธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยชินวัตร ชีวิตส่วนตัวสมรสกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมศรี เปี่ยมสมบูรณ์ มีบุตร-ธิดารวม 3 คน
ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ จนสำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2515 ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตต สหรัฐอเมริกา และจบการศึกษาระดับปริญญาเอก เมื่อปี พ.ศ. 2522 จากมหาวิทยาลัยฟลอริดาสเตต สหรัฐอเมริกา
ดร.ปุระชัย เป็นหนึ่งใน 23 ผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย และเป็นเลขาธิการพรรคคนแรก (ชุดจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง) เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในช่วงสองปีแรกของรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่สร้างผลงานการจัดระเบียบสังคมเข้มงวดกับสถานบริการตามพระราชบัญญัติจนได้ฉายาว่า "มือปราบสายเดี่ยว" ซึ่งบทบาทการทำงานของ ร.ต.อ.ปุระชัย เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งส่งผลให้ผู้เสียประโยชน์เกิดความเห็นขัดแย้งและเป็นสาเหตุของการปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีของ ร.ต.อ.ปุระชัย ถูกย้ายไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งก็มีความขัดแย้งกันอีกกับ น.พ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งเรียกกันว่า "สงครามคนดี" จนเมื่อการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2548 ร.ต.อ.ปุระชัย จึงได้ยุติบทบาททางการเมืองไป แต่ก็ยังมีข่าวคราวออกมาเป็นระยะ ๆ เช่น การเปิดตัวหนังสือซึ่งเจ้าตัวเป็นผู้เขียนเอง เช่น "คนดีไม่มีเสื่อม" เป็นต้น และหลังการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2549 ร.ต.อ.ปุระชัย ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เป็นบุคคลที่เมื่อมีการสำรวจความคิดเห็นประชาชนครั้งใดมักจะได้รับความนิยมลำดับต้น ๆ เสมอ ๆ และเมื่อมีการสำรวจความเห็นประชาชนในกลางปี พ.ศ. 2550 ปรากฏว่า เป็นบุคคลอันดับหนึ่งที่คนไทยอยากให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ในต้นปี พ.ศ. 2554 ร.ต.อ.ปุระชัยได้หวนกลับคืนมาสู่วงการการเมืองอีกครั้ง โดยมีข่าวว่าจะไปร่วมงานกับพรรคการเมือง คือ พรรคประชาสันติ ซึ่งจะลงเลือกตั้งในปีเดียวกันนั้น หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีมีท่าทีที่ชัดเจนว่าจะมีการยุบสภาในต้นเดือนพฤษภาคม แต่หลังจากนั้นไม่นาน ร.ต.อ.ปุระชัยก็ไม่ได้ตอบคำถามชัดเจนว่าจะไปร่วมงานกับพรรคประชาสันติจริงหรือไม่ ต่อมาในวันที่ 2 เมษายน ร.ต.อ.ปุระชัยก็ได้เปิดตัวเองกับ พรรครักษ์สันติ โดยไม่มีรายชื่ออยู่ในคณะกรรมการบริหารพรรค และจะลงเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 และได้รับการเลือกตั้งในเวลาต่อมา
ร.ต.อ.ปุระชัย คัดค้านที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีมติเห็นชอบ "ร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ…." ที่พยายามช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณให้พ้นความผิด โดยยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณควรที่ต้องรับโทษตามกฎหมายคดีทุจริตคอรัปชันก่อน ถึงจะมีสิทธิได้รับการเสนอชื่อให้ได้รับการอภัยโทษความผิดที่ทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อรัฐ